ปั๊ป ธราเทพ จุลรัตน์ “ฮีโร่ผู้ให้…แม้ไม่มีลมหายใจ”
Tue Mar 04 2025
2 min read
โพสต์นี้ขอเขียนถึงหลานรัก ผู้ที่ได้จากผมไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ
ธราเทพ จุลรัตน์ อีกชื่อที่ได้รับเกียรติ จากสภากาชาดไทยให้เป็นหนึ่งใน “ฮีโร่ผู้ให้…แม้ไม่มีลมหายใจ”

ฮีโร่ผู้ให้… แม้ไม่มีลมหายใจ”
“น้องปั๊บ” นายธราเทพ จุลรัตน์ นักเรียนชั้น ม.6 อายุ 18 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น สร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ครั้งสุดท้ายของชีวิต ผู้มอบของขวัญอันยิ่งใหญ่ให้แก่ผู้ป่วยที่รอรับการรักษาผ่านการ #บริจาคอวัยวะ (ไตและลิ้นหัวใจ) ให้แก่ #สภากาชาดไทย
“ให้… แม้ไม่มีลมหายใจ”
แม้เขาจะจากไป… แต่ความเสียสละของเขายังคงอยู่ และช่วยให้ชีวิตของผู้ป่วยอีกหลายคนได้ไปต่อ
ขอให้ความดีของ “น้องปั๊บ” นายธราเทพ จุลรัตน์ เป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนเห็นคุณค่าของการให้
#สภากาชาดไทย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว และขอผลบุญที่ได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกหลายชีวิตครั้งนี้ ขอให้ดวงวิญญาณของ “น้องปั๊บ” สู่สุคติในสัมปรายภพเทอญ
แม้ครอบครัวเราเองจะรู้สึกภาคภูมิใจมากแค่ไหนจากการที่หลานชายคนนี้ ได้ทำประโยชน์ให้แก่สังคม จนเป็น “ฮีโร่ผู้ให้…แม้ไม่มีลมหายใจ” แต่ผมเองก็ยังอยากให้เป็นเป็นเพียงความฝัน เพราะมันเจ็บปวดเหลือเกิน จนเกินจะบรรยายได้ เพราะในวัยที่น้องควรจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่น้องต้องการและฝันไว้ กลับต้องมาจากไปก่อนวัยอันควร ปั๊ปเองอาจจะเกิดมาด้วยความไม่พร้อมหลายอย่าง แต่ผมเองก็พยายามดูแลหลายๆ เรื่อง รวมทั้งค่าใช้จ่ายตั้งแต่เขาเกิดมา

เนื่องจากปั๊ปถูกเลี้ยงมาโดยคุณย่าเป็นหลัก เมื่อคุณย่าจากไปแล้ว ลมหายใจสุดท้ายของแม่ผม แม้ไม่ได้ยินเสียงแล้ว แต่มองตาก็รู้ว่าแม่จะพูดว่าช่วยรับปากจะดูแลหลานคนนี้ต่อให้ด้วยนะ ผมรับรู้และรับปากแม่ว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดอยู่แล้วแม่ไม่ต้องห่วงนะ แล้วแม่ก็ได้จากผมไป (ครั้งนั้นเป็นการสูญเสียครั้งแรกที่ผมเรียกว่ามืดแปดด้าน ไม่รู้จะมีชีวิตต่ออย่างไรและเพื่ออะไร)

ปั๊บกับการเดินทางไปเที่ยวทะเล ครั้งแรกในชีวิต
หลังจากนั้นปั๊ปเอง ก็อาศัยอยู่กับปู่และพ่อต่อไป จนพ่อมีครอบครัวใหม่ แต่ก็อยู่ด้วยกันอย่างดี ช่วยดูแลเลี้ยงน้องได้ดีทีเดียว ไม่ได้เก็บตรงนั้นมาเป็นมาเป็นปัญหาในชีวิต (ผมว่าปั๊ปปรับตัวได้เก่งและเป็นเด็กใฝ่ดีมากจริงๆ) ผมเองนั้นก็พยายามส่งเสียค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งส่วนของปู่และปั๊ป ซึ่งปั๊ปเองนั้นก็จะได้ช่วยดูแลและตอบแทนพระคุณคุณปู่ไปด้วย (เนื่องด้วยผมเองก็ย้ายงานไปหลายที่หลายจังหวัด) จนคุณปู่จากไปอีกคนซึ่งเราก็ช่วยดูแลจนถึงนาทีสุดท้าย จากนั้นผมรับหลานมาอยู่กับครอบครัว และพยายามเติมเต็มทุกๆ อย่าง อย่างที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งควรจะได้รับ ความรักนั้นคงยากที่จะบรรยายเป็นคำพูดได้ ผมรักและดูแลปั๊ปเหมือนลูกมาแต่ไหนแต่ไร การรักใครซักคนให้ได้เหมือนลูกนั้นหมายความว่ามันต้องมากกว่าลูกแท้ๆ เป็นเท่าตัวแน่นอน และนั้นแหละครับความรักของผมที่มีให้ปั๊ป ไปไหนมาไหนทุกคนก็จะบอกว่าผมมีลูกสามคน และผมไม่เคยปฏิเสธ เพราะทั้งสามคนผมรักเหมือนลูกเท่า ๆ กันทุกคน


ปั๊ปครั้งเมื่อย้ายมาอยู่กับผม ในช่วง ม.5 - ม.6 เป็นช่วงชีวิตวัยรุ่นที่สดใสมาก
ในช่วงชีวิต 2 ปีท้าย เมื่อมาอยู่กับผมปั๊ปเองน่าจะสนิทกับป้าที่สุดล่ะ คุยกันแทบทุกเรื่องราวซึ่งปกติแล้วเด็กวัยรุ่นยากที่เปิดใจคุยได้ทุกเรื่อง อาจจะเพราะป้าเองคอยดูแลปั๊ปแทบจะทุกเรื่องและทุกวันเวลา เราทำงานที่บ้านนั้นคือมีแค่เวลาที่ปั๊ปไปโรงเรียนเท่านั้นที่ห่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ จัดฟัน ซื้อของที่จำเป็น ของที่อยากได้ โรงเรียน ท่องเที่ยว หัดขับรถจนถึงพาไปทำใบขับขี่ ป้าดูแลหมด เตรียมตัวไว้ว่าปีหน้าก็จะเข้ามหาวิทยาลัย จะได้เดินทางได้สะดวกและปลอดภัย แม้นกระทั่งหอพัก หรือเตรียมของใช้ที่จำเป็นที่จะเข้าหอพัก ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทุกอย่างถูกคิดและวางแผนไว้โดยป้าหมดแล้ว ผมรับรู้ได้จากที่ปั๊ปแสดงออกมา ว่าเขารักและภูมิใจในตัวป้ามาก (ผมสังเกตุเมื่อมีกิจกรรมที่ป้าต้องไปโรงเรียน ปั๊ปจะรู้สึกดีใจแบบที่มีแม่มาโรงเรียน จะรู้สึกดีและพูดเรื่องนั้นอยู่เสมอๆ) ส่วนผมเองค่อนข้างยุ่งกับงาน แต่ช่วงเสาร์ – อาทิตย์ก็จะพยายามวางงานลงแล้วหากิจกรรมมาทำด้วยกัน (เพราะผมรู้ว่าเวลาที่จะมีให้จะน้อยลงเรื่อยๆ เพราะถ้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันทุกวันก็จะน้อยลง) ส่วนมากก็จะเป็นงานช่างแหละ เพราะปั๊ปชอบงานช่าง เครื่องเสียง ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิคส์ โทรศัพท์ เรียกว่าซ่อมได้เกือบหมด (ความสามารถนี้ได้มาจากพ่อของปั๊ปเต็มๆ) แต่หลัก ๆ ที่ช่วยลุง ก็แต่งรถตู้เพื่อไปแคมป์ปิ้งกัน ซึ่งปั๊ปเองชอบมากเมื่อได้ออกไปแคมป์ปิ้งกัน ทุกครั้งที่ไปก็จะบอกผมเสมอ ว่าในชีวิตนี้ไม่เคยคิดหวังเลยว่าจะได้มาทำอะไรแบบนี้
และรู้สึกมีความสุขมาก (นี้คงเป็นกิจกรรมเดียวที่ผมคิดถึงแล้วรู้สึกอิ่มใจ ที่ได้พาปั๊ปทำ และเขารู้สึกมีความสุขจริง ๆ)
![]() | ![]() |
---|
ปั๊ปถ่ายภาพกับน้อง ๆ ทั้งก้ามปูและเต๋า ในการแคมป์ปิ้งครั้งแรก ที่จังหวัดเลย ปั๊ปได้พูดคำหนึ่งที่ผมจะจำไม่รู้ลืม “ผมไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตจะได้มาทำอะไรแบบนี้ มีความสุขจังครับลุง”
ปั๊ปเองมีความฝันว่าอยากจะเป็นครู ชอบทำกิจกรรมที่โรงเรียนมาตั้งแต่โรงเรียนเดิมแล้ว เวลาในช่วงวัยรุ่นอาจจะไม่ค่อยเหมือนวัยรุ่นอื่นๆ เพราะปั๊ปเองชอบไปทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ และครูที่โรงเรียน ซ่อมโน้นนั้นนี่ ไฟฟ้า ประปา แม้กระทั้งผสมปูนเทพื้น หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เขาพอจะช่วยได้ พอมาอยู่ในช่วงมัธยมปลาย ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานโรงเรียน ซึ่งปั๊ปเองก็ทุ่มเทกับกิจกรรมในโรงเรียนมาก ๆ และกอปรกับปั๊ปมาเจอครูรุ่นใหม่ ที่เป็นกันเองกับนักเรียน จึงทำให้ความฝันที่อยากเป็นครูนั้นชัดเจนขึ้นไปอีก ปั๊ปเองเป็นเด็กกิจกรรม อาจจะเป็นเพราะพื้นฐานนิสัยของเขาที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น (ปั๊ปเป็นเด็กที่รู้จักไปวัดทำบุญตักบาตร มาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งอาจจะเพราะภาระที่ต้องทำบุญให้คุณย่าแทนปู่ ทำให้เป็นการปลูกฝังนิสัย เพราะที่วัดคงได้ช่วยจับโน้นนั้นนี่ช่วยเหลือคนที่วัด ผมว่าตรงนี้อาจจะเป็นจุดที่ปลูกฝังนิสัยของน้องตั้งแต่เด็กเหมือนกัน)
การเรียนก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ได้รับทุนการศึกษาอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งเป็นวิชาฟิสิกส์แล้วด้วย ปั๊ปชอบเลย ผมเองให้ลองแก้โจทย์บางอย่าง ก็แก้ได้เร็วเลยทีเดียว นี่คงเป็นความชอบและความพยายามของปั๊ปเอง จนสามารถทำ Portfolio เพื่อให้ได้เข้าเรียนที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในสาขาฟิสิกส์ได้ ซึ่งจะรายงานตัวเพื่อเข้าเรียนในสัปดาห์ข้างหน้า ก่อนที่จะเสียชีวิต แต่นั้นแหละครับชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน พุทธศาสนาสอนไว้ว่า
อย่าประมาทในทุกลมหายใจ ระหว่างพรุ่งนี้กับชาติหน้า ไม่รู้ว่าอะไรจะมาถึงก่อน เราต้องระลึกถึงความตายอยู่ตลอดเวลา ทุกลมหายใจเข้า-ออก
ปั๊ปได้ทำหน้าที่แม้ลมหายใจสุดท้ายของเขา ก็ยังทำเพื่อคนอื่นก่อนจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ และถึงแม้จากไปแล้วก็ยังได้ทำประโยชน์ด้วยอวัยวะของน้องเอง ผมเองคงเก็บปั๊ปไว้ในความทรงจำที่ลึกที่สุดที่ไม่มีวันที่จะลืมเลือนได้เลย ขอให้หลานของลุงเดินทางไปอยู่ในที่ที่ดีขึ้นไป ไม่ต้องห่วงสิ่งใดๆ ลุงจะดูแลน้องให้ดี แม้นน้อง ๆ เองจะถามหาพี่ปั๊ปในทุก ๆ วัน
ขอบคุณที่มาช่วยเติมความสุขให้ครอบครัวเรา ในช่วงเวลาที่มีร่วมกันแม้มันจะน้อยเกินไปมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่างน้อย ลุงกับป้าก็ได้ดูแลอย่างดีที่สุดแล้ว นั่นแหละเป็นช่วงเวลาที่มีค่า ซักวันหนึ่งถ้ามีจริง ไว้เจอกันใหม่นะลูก




ในงานของศพของปั๊ป สำนักงานเหล่ากาชาด จังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางมาร่วมไว้อาลัย ได้พูดคำหนึ่งกับผมว่า
จากเรื่องราวประวัติ อีกทั้งความดี ที่น้องได้ทำไว้ ซึ่งจะเป็นเหตุนำพาไปซึ่งผลลัพธ์ในอนาคตนั้นเราไม่ได้สูญเสียแค่คนคนหนึ่งไป แต่เราได้สูญเสียทรัพยากรอันมีค่าของประเทศเราไปด้วย
คำๆ นี้ทั้งจุกอกและยังก้องอยู่ในหัวผม
สุดท้ายขอบพระคุณทุกเพจและสำนักข่าวที่ช่วยเสนอข่าวน้อง และทุกท่านที่ร่วมอนุโมทนากับน้องปั๊ป ทั้งในงานฌาปนกิจและกัลยาณมิตรที่ไม่เคยรู้จักกันที่ร่วมอนุโมทนาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ผลบุญอันใดที่น้องได้สร้างไว้ให้โลกใบนี้ก็ขอทุกท่านที่ร่วมอนุโมทนาได้รับผลบุญนั้นด้วยเทอญ
ขอบคุณโพสต์ facebook ไว้อาลัยจาก โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน3
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก สภากาชาดไทย Thai Red Cross Society
ขอบคุณโพสต์ Twitter จาก สภากาชาดไทย Thai Red Cross Society
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก Ch7HD News
ขอบคุณโพสต์ข่าวจาก www.ch7.com
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก Matichon Online – มติชนออนไลน์
ขอบคุณโพสต์ข่าวจาก www.matichon.co.th
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก Naewnanews – แนวหน้าออนไลน์
ขอบคุณโพสต์ข่าวจาก www.dailynews.co.th
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก TrueVisions
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก เพจทีมลุง
ขอบคุณโพสต์ facebook จาก เพจนิยมสาวในเครื่องแบบ
สุดท้ายผมขอแนบกลอนที่คุณครูและโรงเรียน แต่งไว้เพื่อไว้อาลัยปั๊ปเป็นครั้งสุดท้าย
ธรา ผู้ประเสริฐสร้าง……….กุศล
เทพ เด่นดีมาดล………………สู่ด้าว
จุล เจือมวลชน………………ครองสุข
รัตน์ พิสุทธิ์อะคร้าว………….อร่ามล้ำนำเกษม
จากร้อยเอ็ด สู่ซำจาน หาญประจักษ์
ขก.3 แดนถิ่นรัก ประเสริฐศรี
ธราเทพ ผู้รักเรียน เพียรทวี
เจ้านั้นพลี แรงใจกาย เป็นอาจิณ
น้องปุ๊บปั๊บ ธราเทพ เทพสมชื่อ
เจ้าเคียงคู่ ดีงามดุจ ชลาสินธุ์
เป็นที่รัก ที่พึ่งพา ทั้งธานิน
ติดมข. สมถวิล สง่างาม
มีระเบียบ วินัย เจ้าพรั่งพร้อม
เจ้านอบน้อม คุณธรรม นำไต่ถาม
เทิดแทนคุณ “จุลรัตน์” ไว้งดงาม
เจ้าทำตาม แบบแผนดี มีน้ำใจ
แม้เจ้าจะ หนุ่มแน่น เต็มแผ่นพื้น
มิอาจยืน หยัดอยู่ยง มั่นคงได้
เจ้าสิ้นลม ดังแพแตก แหลกลงไป
ทุกคนต่าง อาลัยอยู่ มิรู้วาย
ขอสวรรค์ ชั้นพรหม บ่มบุญเจ้า
คืนสู่เหย้า เทพบุตร เป็นจุดหมาย
ขอเจ้าผ่อน พักเถิด ประเสริฐสบาย
สู่สัมปราย ภิภพ…สงบเทอญ
ด้วยรักและอาลัยยิ่ง นางสาวชนม์นิภานันท์ ดอนพันพล : ข้าราชการครู ประพันธ์ในนามโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 3